ด้วยกิจวัตรประจำวันของคนเราในปัจจุบันถูกเปลี่ยนไปกับระยะเวลาที่เร่งรีบ
และการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ถูกจำกัดเอาไว้ด้วยเข็มนาฬิกาทำให้ใครหลายคนเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองมาเป็นการทำร้ายร่างกายของตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว
ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดินทาง
และรูปแบบการใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้นต่างเป็นกิจวัตรที่ทำให้ร่างกายของคุณมีน้ำหนักมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่ตาชั่งแสดงน้ำหนักจนทำให้ตกใจนั่นเอง
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าคุณไม่อยากทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าอะไรบ้างที่ทำให้คุณอ้วนโดยไม่รู้ตัว!
1. ทานอาหารไม่ดูแคลอรี่
แน่นอนอยู่แล้วล่ะว่าตอนจะทานข้าว
หรือจะหาอะไรเข้าปากทั้งทีคุณจะไม่คิดถึงเรื่องปริมาณของแคลอรี่ทั้งนั้น
เพราะคิดว่ามันเป็นอาหาร Low fat ไม่มีไขมัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอาหาร Low fat ที่คุณทานเข้าไปไม่ได้หมายความว่าเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ
แล้วอาหารที่มีไขมันต่ำก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีแป้งน้อย น้ำตาลน้อยนะจ๊ะ
ฉะนั้นให้คุณคำนวณปริมาณแคลอรี่ทีทานเข้าไปด้วย
2. ทานอาหารไม่เป็นเวลา
แล้วทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันที่ทานข้าว เมื่อไหร่ที่ถึงเวลาทานข้าวของแต่ละมื้อนั้นก็ควรจะเป็นเวลาทานข้าวเพียงอย่างเดียว
ไม่ควรทำกิจกรรมอย่างอื่นในขณะที่คุณกำลังทานข้าว
เพราะการที่คุณทานข้าวแล้วไม่รู้ว่าทานเข้าไปในปริมาณเท่าไหร่ก็จะทำให้คุณทานเข้าไปเรื่อยๆ
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ไม่แตกต่างอะไรกับการนั่งกินป้อบคอร์นหรือขนมขบเคี้ยวในตอนที่กำลังดูทีวีเลย
เพราะคุณเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมอื่นๆ แล้วก็ตักข้าวกินเรื่อยๆ
โดยไม่ทันรู้ตัวนั่นเอง
3. ชอบกินของมันหรือของทอด
คุณรู้หรือไม่ว่าการทอดมันยิ่งทำให้ปริมาณแคลอรี่ของอาหารเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเลยทีเดียวนะ
แต่คนเรามักจะมองข้าม
และคิดว่าของทอดนั้นเป็นอาหารอร่อยเลยละเลยที่จะคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่นอาหาร
Fast food ยี่ห้อดังทั้งหลายแหล่ มันก็จริงอยู่ที่ของทอดเป็นอะไรที่อร่อย ถูกปาก
ถูกใจของใครแต่ละคน
แต่หารู้ไม่ว่าของทอดเหล่านี้แหละเป็นตัวการชั้นดีที่ทำให้ไขมันในร่างกายของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ลองเปลี่ยนมาทานแบบต้ม นึ่ง ตุ๋น ก็ไม่เสียหายอะไรนะ
4. ไม่ขยับเขยื้อน ไม่ออกกำลังกาย
อย่าเอาข้ออ้างของการไม่มีเวลามาเป็นตัวถ่วงในการออกกำลังกายของคุณเลยดีกว่า
เวลาของคนเรานั้นมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน อยู่ที่แต่ละคนว่าจะมีการบริหารจัดการกับเวลาอย่างไร
สำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือว่าใครหลายคนที่จะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำนั้นลองทำงานให้เสร็จจากที่ทำงานไม่ต้องเอากลับมาทำที่บ้าน
เลิกคิดเรื่องงานเมื่อเดินออกจากบริษัท
แล้วเปลี่ยนมาเป็นคิดถึงเรื่องสุขภาพของตัวเองแทน แล้วคุณจะรู้ว่าร่างกายของคุณต้องการให้คุณออกกำลังกายมากกว่าการนั่งบนเก้าอี้ทำงาน
5. ไม่จำกัดปริมาณอาหารที่ทานเข้าไป
ถึงแม้ว่าอาหารบางชนิดจะมีแคลอรี่ต่ำ
มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทานมันเข้าไปมากๆ จนร่างกายเผาผลาญไม่ทัน
และบางคนก็จำกัดปริมาณอาหาร แต่จำกัดในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับ
เพราะฉะนั้นคุณควรจะหาจุดสมดุลให้กับจานกับข้าวที่คุณทานเข้าไปในแต่ละวัน
ด้วยการจำกัดปริมาณสัดส่วนของอาหารให้พอเหมาะ ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป
6. ดื่มแอลกอฮอล์แทนน้ำ
นี่แหละคือตัวปัญหาของคนที่ชอบเที่ยวกลางคืน และไม่ดูแลรักษาสุขภาพของร่างกายตัวเองด้วยการดื่มแอลกอฮอล์
ด้วยเครื่องดื่มทั้งหลายที่คุณดื่มมันเข้าไปมีปริมาณแคลอรี่เป็นจำนวนมาก
อีกทั้งยังทำให้ระบบเผาผลาญของคุณทำงานผิดปกติ แล้วยังทำให้สมองเสื่อมง่าย
และตับแข็งก็จะตามมาในไม่ช้า มีหรือไขมันรอบเอวจะไม่ถามหา ลองสังเกตจากการที่คุณดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณที่มากดูสิ
วันนั้นร่างกายของคุณจะบวมขึ้นซึ่งเกิดจากการบวมน้ำเพราะเซลล์ในร่างกายต้องกักเก็บน้ำเอาไว้ทดแทนปริมาณน้ำที่เสียไปกับการถ่ายปัสสาวะนั่นแหละ
7. ตบท้ายแต่ละมื้อด้วยของหวาน
คนไทยเรามีอาหารหลากหลายประเภทให้เราเลือกทาน
ซึ่งในแต่ละมื้อนั้นเราจะต้องตบ้ทายด้วยของหวานอันโอชะอยู่เสมอ
เพราะเราเชื่อกันว่าการทานของหวานตบท้ายนั้นจะช่วยให้ร่างกายไม่หิวอีก
และถือว่าเป็นการล้างปากจากอาหารคาวที่ทานเข้าไปอีกด้วย
ใช่เลยมันทำให้คุณไม่หิวอีก เพราะมันมีแคลอรี่มาก
ร่างกายของคุณก็ย่อมต้องการเวลาในการย่อยของหวานเหล่านั้นบวกกับอาหารคาวก่อนหน้านั้นด้วย
คิดดูเอาก็แล้วกันว่าถ้าหากร่างกายเอาพลังงานจากอาหารที่ทานเข้าไปใช้ไม่หมด
แล้วจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนกันล่ะ?
8. บังคับตัวเองให้ทานข้าวให้หมดจาน ในตอนเด็กๆ
หลายคนจะต้องโดนคุณแม่บังคับให้ทานข้าวหมดจาน เพราะสงสารชาวนาเป็นอย่างแน่นอน
จนทำให้ในตอนโตติดนิสัยที่จะต้องทานข้าวให้หมดจานทุกครั้ง
ถ้าหากว่าทานไม่หมดก็จะรู้สึกผิดกับชาวนาเป็นแน่แท้ แต่เดี๋ยวก่อน
อย่าพึ่งสงสารคนอื่นสงสารตัวเองก่อนดีกว่า ถ้าหากว่าคุณกลัวทานไม่หมดก็ตักทีละน้อย
ถ้าไม่อิ่มก็ตักเพิ่มใหม่ได้
ไม่จำเป็นต้องตักข้าวเต็มทัพพีแล้วมาโทษตัวเองว่าไม่สงสารชาวนาก็ได้
9. เครียดแล้วต้องกินให้ได้
หรือบางคนชอบให้รางวัลตัวเองด้วยการกินนั่นเอง
อาการเครียดแล้วจะต้องหาอะไรทานนั้นอาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายของคุณส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของคุณก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นคุณควรทำจิตใจให้ร่าเริง
แต่ถ้าหากว่าหลีกเลี่ยงกับความเครียดไม่ได้ก็หลีกเลี่ยงกับการกินเปลี่ยนไปเป็นดื่มน้ำหรือทานอาหารพวก
Clean food ดีกว่า
ส่วนคนที่ให้รางวัลตัวเองด้วยการกินนั้นขอให้คุณยกเลิกการให้รางวัลนี้ไปได้เลย
10. ชอบบุฟเฟต์
เป็นคนชอบความคุ้มค่ากับการเสียเงินให้กับทางร้านอาหาร
คุณอย่าลืมว่าการทานอาหารบุฟเฟต์นั้นไม่ได้ผิดอะไรเลย
แต่ถ้าหากว่าคุณกินเยอะนั้นเป็นความผิดของคุณแล้วล่ะ
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอาหารบุฟเฟต์นั้นคืออาหารที่คุณจะต้องให้บริการตัวเอง
เดินไปตักด้วยตัวเอง หรือที่เราเรียกกันว่า Service yourself แล้วมันก็ไม่ได้มีความหมายว่า
กินให้จุใจ หรือเอาให้คุ้ม! เอาให้พุงกาง! ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจนะ ถ้าวันนี้คุณมีแผนจะไปกินบุฟเฟต์แล้วล่ะก็
ขอให้คิดใหม่ และตอบกับตัวเองอีกครั้งว่ายังจะไป แล้วยังจะกินให้พุงกางเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?
ถ้าใช่ อย่ากินเลยดีกว่า
ถ้าหากว่าคุณมีแต่ละข้ออยู่
หรือบางคนอาจจะมีหลายข้อเลยทีเดียว มันก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่คุณจะต้องเลิกนิสัยเหล่านี้เพื่อไม่ให้น้ำหนักมากเกินไปกว่านี้
และเพื่อเป็นการไม่ให้ร่างกายของคุณต้องแบกรับไขมันให้เยอะไปมากกว่านี้
คุณเองก็ควรลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ออกไปเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
ร่างกายที่ดีกว่า และสุขภาพที่ดีกว่าของคุณเอง